ฟิลเลอร์ คืออะไร?

ฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็ม คือ สารชนิดหนึ่งที่ถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึก รอยย่น หรือปรับรูปหน้าให้ดูเรียบเนียน อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์ขึ้น ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมักทำจาก กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา มีหน้าที่ในการอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและเต่งตึง

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์?

• แก้ไขปัญหาผิว: ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

• ปรับรูปหน้า: ช่วยเติมเต็มส่วนที่ยุบตัว ทำให้รูปหน้าดูอิ่มฟู สมส่วน

• เพิ่มความชุ่มชื้น: กรดไฮยาลูโรนิกช่วยอุ้มน้ำให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: การฉีดฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

ประเภทของฟิลเลอร์

• ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว: ส่วนใหญ่ทำจากกรดไยอะลูโรนิก ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน

• ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร: ทำจากสารสังเคราะห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี แต่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้มากกว่า

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์: สู่ผิวสวย อิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ

การฉีดฟิลเลอร์เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว แต่เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้ค่ะ

ก่อนการฉีด

• ปรึกษาแพทย์: สิ่งแรกที่ควรทำคือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือเวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อประเมินสภาพผิวของคุณ ความต้องการ และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

• แจ้งประวัติสุขภาพ: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทานอยู่ และการแพ้ยาต่างๆ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• เตรียมตัว: อาจต้องงดทานยาแอสไพรินหรือยาต้านการอักเสบก่อนการฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากยาดังกล่าวอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น

ระหว่างการฉีด

1. ทำความสะอาดผิว: แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

2. ทายาชา: เพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด

3. ฉีดฟิลเลอร์: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่ต้องการ โดยอาจใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบริเวณและปัญหา

4. ประคบเย็น: หลังการฉีด แพทย์อาจประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

หลังการฉีด

• หลีกเลี่ยงการสัมผัส: พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก

• ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเป็นระยะเพื่อลดอาการบวม

• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรง: เช่น การออกกำลังกายหนักๆ การนอนคว่ำ หรือการนวดหน้า

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีดอย่างละเอียด

ผลลัพธ์และระยะเวลาคงอยู่

• ผลลัพธ์: ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากฉีดประมาณ 2-3 วัน และจะคงอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และปริมาณที่ฉีด

• ระยะเวลาคงอยู่: ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูโรนิกจะค่อยๆ สลายตัวไปตามธรรมชาติ ทำให้ต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ

ข้อควรระวัง

• เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน: ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

• ปรึกษาแพทย์: ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• ฟิลเลอร์ปลอม: ระวังการใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการรักษาที่ปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ

หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยนะคะ

คำถามที่พบบ่อย:

• ฟิลเลอร์เจ็บไหม? การฉีดฟิลเลอร์อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายกับการถูกยุงกัด แต่แพทย์จะทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ

• ฟิลเลอร์อันตรายไหม? หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าปลอดภัย

• ฟิลเลอร์เหมาะกับทุกคนหรือไม่? ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม